รีวิว MK สุกี้ ชินจุกุ โตเกียว (MK Restaurant Shinjuku)

 

ห่างหายจากการทำรีวิวและการพาเที่ยวไปนานมาก ๆ นะคะ เพราะต้องกักคัวตามสถานการณ์นะคะ ไม่ได้ไปไหนเลย จากแรก ๆ ที่ว่าอึดอัดนักหนา สักพักเริ่มชิน และสุดท้ายกลายเป็นชอบการอยู่บ้านเหมือนกันนะคะที่จริง จนเริ่มโดนแซวว่าติดแก่ ติดบ้าน กว่าจะงัดตัวเองให้ออกไปเดินเล่นบ้าง เที่ยวเล่นบ้าง ถ่ายรูปเล่นบ้างก็ใช้เวลาเหมือนกันนะคะ ตอนนี้หลาย ๆ อย่างก็กลับสู่สภาวะปกตินะคะ ต๊ะเองก็เหมือนกัน ไปค่ะไปเที่ยวกัน

เมื่อวานเป็นวันที่ลูกสอบเสร็จนะคะ ประกาศผลเป็นที่เรียบร้อย มีที่เรียนหลังจากลุ้นมานาน วันนี้พาลูกชายไปทำพาสปอร์ตที่สถานฑูต เสร็จสรรพเลยนั่งรถไฟพาลูกมากิน MK สุกี้ ตามรีเควสของลูกชายนะคะ ให้เค้าเลือกจาก 2-3 ร้านที่อยู่ไม่ไกลจากสถานฑูต ก็มีทั้งบุฟเฟต์อาหารไทย ร้านราเมนนะคะ สุดท้ายเค้าก็เคาะว่าต้องเป็น MK เพราะไม่ได้กินนานมาก และต้องเป็นบุฟเฟต์เท่านั้น

ร้านตั้งอยู่บนตึกใกล้ห้างอิเซตันนะคะ ถ้านั่งรถไฟใต้ดินลงที่ Shinjuku-sanchome sta. จะเดินหาได้ง่าย ไม่ไกลค่ะ วันนี้มาเร็วนิด ร้านยังไม่เปิดนะคะที่จริง แต่ประตูเปิดเข้ามาได้ เลยขอพนักงานมารอด้านใน พอเปิดร้านก็ยังไม่มีลูกค้าเข้ามาเพิ่มนะคะ เลยถ่ายรูปในร้านได้เยอะนิดนึง 

ร้านด้านในกว้างมากนะคะ เพดานสูงปรี๊ด โล่งเดินสบาย สไตล์ของโต๊ะเก้าอี้จะเหมือนร้าน MK ที่ไทยนะคะ เน้นกลุ่มลูกค้าครอบครัว กลุ่มเพื่อน กลางวันคนน้อยมากนะคะ มีลูกค้ามาไม่กี่โต๊ะ น่าจะไม่เกิน 4 โต๊ะ ลูกค้าคงจะแน่นในช่วงเย็น ๆ หรือวันเสาร์อาทิตย์มากกว่า วันนี้มาวันศูกร์เลยได้บรรยากาศแบบส่วนตัวโดยไม่ต้องจองห้องพิเศษ

พนักงานเสิร์ฟมีน้อยนะคะ ถ้าเทียบกับพื้นที่และจำนวนโต๊ะ ใช้หุ่นยนต์เป็นแรงงานหลัก สั่งอาหารผ่านแท็ปเล็ต

บุฟเฟต์วันนี้เราเลือกราคาถูกที่สุดนะคะ ก็จะมีเนื้อหมู เนื้อวัว เนื้อไก่ ลูกชิ้น ผัก + ติ่มซำที่เลือกได้ 20 เมนู อาจจะเป็นมุมมองที่จำกัดนิดนึง แต่เอาเป็นว่าถ้าใครงบถึงหรืออยากลองเค้ามีคอร์สนะคะ เนื้อวัวดี ๆ แล้วติ่มซำแบบจุก ๆ อันนี้ก็ไว้มาเปิดเมนูเลือกกันนะคะ บุฟเฟต์ที่เราเลือกราคาอยู่ที่ประมาณ 3,600 เยน ++

นํ้าจิ้มจะมีให้เลือก 3 แบบคือแบบ MK นํ้าจิ้มงา และซอสพอนสี สไตล์ชาบู ชาบู นะคะ ขอสารภาพว่าต๊ะ ซาดาโอะและโคชิไม่ได้ลองนะคะ ใช้แต่นํ้าจิ้ม MK ซึ่งก็จะคล้าย ๆ ที่ไทยค่ะ รสหวาน เค็ม เผ็ดนิด แต่จะเค็มนำนะคะ ถ้าที่ไทยต๊ะจะรู้สึกว่ามันหวานกว่านี้ แล้วนํ้าจิ้มจะใสกว่าที่ไทยเล็กน้อย แต่ก็ยังเข้มข้นค่ะ เหนียวจิ้มได้ไม่หงุดหงิด

มีพริก มีต้นหอม ตักเพิ่มได้เองนะคะ แต่พริกเค้าจะไม่โขลกนะคะและไม่เผ็ดมาก กระเทียมไม่มีค่ะ อ้อมีพริกผัดด้วยนะคะ ก็ลองปรุง ๆ เผื่อได้รสชาติใหม่ ๆ 

นํ้าซุปมีให้เลือกหลายแบบนะคะ แต่เลือกได้สองแบบนะ เลือกมาเป็นนํ้าซุปใสแบบ MK และนํ้าซุปรสต้มยำ ซุปใสรสชาติก็จะเป็นแนวเดียวกับ MK ที่ไทยนะคะ แต่รสชาติอ่อนกว่า เครื่องเทศใส่น้อยมาก ไม่มีกลิ่นพริกไทยค่ะ ส่วนนํ้าซุปรสต้มยำรสหลักคือเผ็ดและเค็ม แต่ไม่จัดจ้านนะคะ พอใส่หมูและผักลงไปจะกลมกล่อมขึ้น 

ของที่เลือกได้ตามบุฟเฟต์ที่ต๊ะเลือกจะไม่ได้เยอะมากนะคะ เพราะฉะนั้นที่ร้านยังมีอย่างอื่นเยอะแยะนะคะที่อาจจะอร่อยน้า ต๊ะชอบเกี๊ยวกุ้งนะคะ มีความเด้งกรอบ ไม่มีกลิ่นนํ้ามันงา เกี๊ยวสีเหลือง ๆ แบบนี้คิดว่าต้องทำเองหรือนำเข้าค่ะ เพราะในญี่ปุ่นไม่มีขาย หมูเนื้อสไลซ์มาแบบบางเฉียบ หมูหมัก เนื้อหมักไม่มีนะคะ ลูกชิ้นจะไม่ใช่แบบบดละเอียดค่ะ แนวโฮมเมดนิดนึงเหมือนหมูสับต้ม แต่ก็เนียนกว่า 

ผักต่าง ๆ จะให้มาไม่เยอะนะคะ แต่ก็เสิร์ฟเร็วค่ะ จะทยอยสั่งก็ได้ถ้ากลัวเหลือ หรือถ้าไม่อยากขาดตอนก็สั่งทีละเยอะ ๆ ได้เลย 

มาถึงคิวติ่มซำนะคะ นี่เป็นครั้งแรกในรอบ 15 ปีที่ได้กินติ่มซำแบบฉํ่า ๆ ปกติในญี่ปุ่นต้องไปตามร้านดัง ๆ ขายติ่มซำโดยเฉพาะ ถ้าแถวกินซ่าก็หลายหมื่นเยนอยู่นะคะ ต๊ะ ซาดาโอะ และโคชิ ยังไม่เคยมีใครเคยได้ลองนะคะ ยกเว้นซาดาโอะที่อาจจะเคยกินตอนเด็ก ๆ 

บ๊ะจ่างอร่อยนะคะ ต๊ะชอบนะ ความมันอะไรนี่อาจจะไม่เท่าที่ไทยนะคะ แต่ก็อร่อยและไม่หนักท้องมาก ก็ดีเหมือนกัน เสี่ยวหลงเป่ามีทั้งไส้กุ้ง ไส้ปูอะไรหลากหลายนะคะ อันนี้ก็ยังชอบหมูที่สุด แต่ทางนี้แป้งค่อนข้างหนานะคะ และด้านในอาจจะไม่ได้ฉํ่าแบบนํ้าซุปร้อน ๆ นํ้าไม่ค่อยมี เน้นกินง่ายค่ะ 

ขนมจีบซาลาเปานี่มาแบบกระปริบกระปรอยเล็กน้อยนะคะ ถ่ายไม่ทันค่ะ ขนมจีบมีหลายไส้นะคะ หมูเอย ปูเอย เมนไทโกะก็มีค่ะ ซาลาเปาทางนี้จะเน้นความนุ่มหนึบมากกว่านุ่มฟูนะคะ แป้งหวานน้อยกินง่ายค่ะ 

ปอเปี๊ยะทอดนะคะ อร่อยใช้ได้ค่ะ กรอบ ไม่อบนํ้ามัน แต่อาจจะพูดไม่ได้ว่าอร่อยสุด สุดยอด ถ้าจริงจังกับเมนูนี้แนะนำร้านเวียดนามค่ะ 

เมนูสุดท้าย อันนี้นอกบุฟเฟต์นะคะ จ่ายเงินเพิ่มเอง เป็นซาลาเปาไส้ถั่วแดงขึ้นรูปเป็นพีชน่ารัก ๆ ของจริงมันคิวท์กว่านี้มากนะคะ แต่ต๊ะถ่ายรูปมาแล้ว น้องดูหมองไปนิด

เวลาบุฟเฟ่ต์ 1.5 ชั่วโมงนะคะ ถ้าสำหรับบ้านต๊ะเอง เหลือ ๆ มาก ตอนที่วางตะเกียบนี่เวลายังเหลือเป็นครึ่งชั่วโมง ถามว่าคุ้มไหม ต๊ะส่วนตัวว่าคุ้มนะ เพราะกินได้หลากหลาย และกินสบายใจเพราะงบกำหนดได้ ถ้าใครมาเที่ยวญี่ปุ่น แล้วอยากเบรคอาหารญี่ปุ่นต๊ะแนะนำนะคะ แต่ต้องบอกก่อนว่ามันจะไม่เหมือนที่ไทยได้นะคะ ก็คล้าย ๆ เพราะเค้าก็ต้องปรับรสตามวัตถุดิบ และตามความชอบของคนญี่ปุ่น ไม่งั้นร้านก็อยู่ไม่ได้ ถ้าสนใจก็แวะมาค่ะ ร้านนั่งสบายมาก😋