ยังคงเป็นเมนูวากาชิอย่างต่อเนื่องนะคะ แต่จริง ๆ แล้วไม่ได้ตั้งใจอะไร อยากเอาเมนูอาหารคาวมาแทรกเหมือนกัน แต่พอดีมีงานแทรกเข้ามา เป็นงานแปลเอกสารที่คนรับแปลคนก่อนเค้าเกิดติดธุระกะทันหัน งานครึ่งนึงก็เลยส้มหล่นมาอยู่ที่ต๊ะ ซึ่งก็ดีใจที่ได้งาน ได้เงิน แต่งานแนวนี้มักจะเป็นงานด่วน หรือด่วนที่สุด เพราะเป็นงานที่คนอื่นทำค้างไว้นั่นเอง อาทิตย์ที่ผ่านมาจึงเป็นช่วงที่ทำงานแปลแทบจะตลอด
ส่วนตัวแล้วเป็นคนทุ่มเทกับงานฟรีแลนซ์ แต่ไม่หักโหมนะคะ รับเท่าที่ทำได้ ปฏิเสธงานก็มีบ้าง เพราะคิดตลอดว่าถ้ารับเกินตัว อาจส่งผลต่อคุณภาพ และร่างกายของตัวเอง เจ็บป่วยมาก็ไม่คุ้ม
วกกลับมาที่เมนูวันนี้นะคะ มัทฉะวาราบิโมจิเป็นเมนูจากแป้งวาราบิโมจิที่ไม่ยาก คนที่ไม่ค่อยได้ทำขนมก็ทำได้สบายค่ะ สูตรนี้ไม่หวานจัดนะคะ แต่ถ้าใครต้องเลี่ยงนํ้าตาลก็ลดได้อีกนิดหน่อย จะเปลี่ยนจากนํ้าตาลทรายเป็นนํ้าตาลดำก็ได้นะคะ อร่อยเลยไม่ต้องราดนํ้าเชื่อมเพิ่ม
อากาศร้อน ๆ แบบนี้วาราบิโมจินี่ของโปรดเลยนะคะ กินแล้วมันเย็น ๆ สบายท้องบอกไม่ถูก ถึงจะนิยมกินกันในช่วงหน้าร้อน แต่ตามซุปเปอร์มาร์เก็ตในโตเกียวมีขายกันตลอดทั้งปี ถ้ามาเที่ยวก็ลองแวะชม ชิม ช้อปกันนะคะ มีให้เลือกทั้งแบบวาราบิโมจิที่ผลิตกันทีละเยอะ ๆ ในโรงงาน และวาราบิโมจิแบบโฮมเมด ถึงจะไม่มีป่ายบอกก็ดูได้ไม่ยากค่ะ วาราบิแบบโฮมเมดจะขนาดไม่เท่ากันเลย ส่วนตัวว่าอร่อยทั้งสองแบบนะคะ ถึงรสชาติ รสสัมผัสจะไม่เหมือนกันเลยก็ตาม มีโอกาสลองเทียบกันดูนะคะ
เอาล่ะค่ะ ตามมาดูสูตรมัทฉะวาราบิโมจิ ที่ต๊ะทำกันกับซาดาโอะ และโคชิดีกว่า อร่อยน้า
3. พอแป้งเริ่มสุกใส ก็ยกลงกวนต่อจนแป้งสุกใสทั่วเป็นเนื้อเดียวกัน โรยผงถั่วบนถาดหรือภาชนะที่จะใช้ใส่วาราบิโมจิ จริง ๆ เทเลยได้นะคะ แต่ต๊ะไม่แน่ใจว่าถาดที่บ้านจะติดไหม จริง ๆ มันก็ non stick นะคะ
4. เสร็จแล้ววางในอ่างที่ใส่นํ้าแข็ง ทิ้งไว้ให้เย็นและเซ็ตตัว ประมาณ 20 นาทีนะคะ
5. เสร็จแล้วเทออกมาหั่นนะคะ จะสังเกตว่าแป้งจะนุ่ม ใส และไม่คงรูป หั่นแล้วไม่เป็นชิ้นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าเป็นเพราะแป้งนุ่มมาก ๆ ค่ะ ทำเสร็จแล้วรีบทานให้หมด และถ้าจะแช่เย็นก็ไม่ควรเกิน 1 วันนะคะ
6. ผสมนํ้ากับนํ้าตาลดำ เอาไปตั้งไฟให้เดือดและนํ้าตาลละลายหมด ถ้าชอบหวานและอยากได้นํ้าเชื่อมเหนียว ๆ ลดปริมาณนํ้าลงเหลือ 50 มล. นะคะ
ลองทำกันดูนะคะ
ส่วนตัวแล้วเป็นคนทุ่มเทกับงานฟรีแลนซ์ แต่ไม่หักโหมนะคะ รับเท่าที่ทำได้ ปฏิเสธงานก็มีบ้าง เพราะคิดตลอดว่าถ้ารับเกินตัว อาจส่งผลต่อคุณภาพ และร่างกายของตัวเอง เจ็บป่วยมาก็ไม่คุ้ม
วกกลับมาที่เมนูวันนี้นะคะ มัทฉะวาราบิโมจิเป็นเมนูจากแป้งวาราบิโมจิที่ไม่ยาก คนที่ไม่ค่อยได้ทำขนมก็ทำได้สบายค่ะ สูตรนี้ไม่หวานจัดนะคะ แต่ถ้าใครต้องเลี่ยงนํ้าตาลก็ลดได้อีกนิดหน่อย จะเปลี่ยนจากนํ้าตาลทรายเป็นนํ้าตาลดำก็ได้นะคะ อร่อยเลยไม่ต้องราดนํ้าเชื่อมเพิ่ม
อากาศร้อน ๆ แบบนี้วาราบิโมจินี่ของโปรดเลยนะคะ กินแล้วมันเย็น ๆ สบายท้องบอกไม่ถูก ถึงจะนิยมกินกันในช่วงหน้าร้อน แต่ตามซุปเปอร์มาร์เก็ตในโตเกียวมีขายกันตลอดทั้งปี ถ้ามาเที่ยวก็ลองแวะชม ชิม ช้อปกันนะคะ มีให้เลือกทั้งแบบวาราบิโมจิที่ผลิตกันทีละเยอะ ๆ ในโรงงาน และวาราบิโมจิแบบโฮมเมด ถึงจะไม่มีป่ายบอกก็ดูได้ไม่ยากค่ะ วาราบิแบบโฮมเมดจะขนาดไม่เท่ากันเลย ส่วนตัวว่าอร่อยทั้งสองแบบนะคะ ถึงรสชาติ รสสัมผัสจะไม่เหมือนกันเลยก็ตาม มีโอกาสลองเทียบกันดูนะคะ
เอาล่ะค่ะ ตามมาดูสูตรมัทฉะวาราบิโมจิ ที่ต๊ะทำกันกับซาดาโอะ และโคชิดีกว่า อร่อยน้า
ส่วนผสม
แป้งวาราบิโมจิ Tamasan 100 กรัม
มัทฉะ 1 ช้อนชา
นํ้าตาล 50 กรัม
นํ้าเปล่า 500 มล.
สำหรับเสิร์ฟ
นํ้าตาลดำ (kurozato) 50 กรัม
นํ้าเปล่า 200 มล.
สูตรเอามาจากเว็บไซต์ผู้ผลิต แต่วิธีทำปรับเปลี่ยนเล็กน้อยตามอุปกรณ์ที่มีนะคะ
วิธีทำ
1. ผสมแป้ง นํ้าตาล มัทฉะ นํ้าเปล่า ในอ่างผสม จริง ๆ จะใช้หม้อธรรมดาก็ได้นะคะ แต่บ้านต๊ะไม่มีหม้อสำหรับทำขนมหวาน กลัวกลิ่นพะแนงจะติดมาขอใช้อ่างผสมเพื่อความมั่นใจค่ะ
2. เอาหม้อใส่นํ้าต้มให้เดือด วางอ่างผสมลงไปด้านบน กวนไปเรื่อย ๆ นะคะ
5. เสร็จแล้วเทออกมาหั่นนะคะ จะสังเกตว่าแป้งจะนุ่ม ใส และไม่คงรูป หั่นแล้วไม่เป็นชิ้นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าเป็นเพราะแป้งนุ่มมาก ๆ ค่ะ ทำเสร็จแล้วรีบทานให้หมด และถ้าจะแช่เย็นก็ไม่ควรเกิน 1 วันนะคะ
6. ผสมนํ้ากับนํ้าตาลดำ เอาไปตั้งไฟให้เดือดและนํ้าตาลละลายหมด ถ้าชอบหวานและอยากได้นํ้าเชื่อมเหนียว ๆ ลดปริมาณนํ้าลงเหลือ 50 มล. นะคะ
ลองทำกันดูนะคะ
No comments:
Post a Comment