ต๊ะเป็นคนชอบกินกุ้งและชอบซื้อกุ้งติดครัวไว้ตลอด ส่วนมากแล้วกุ้งที่ซื้อบ่อยก็จะเป็นกุ้งขาวเพราะราคาไม่แพง หาซื้อง่ายมีขายทุกซุปเปอร์ กุ้งขาวที่่ขายในญี่ปุ่นส่วนมากจะเป็นกุ้งนำเข้า แช่แข็ง และไม่มีหัว เพราะต้องรักษาความสดของกุ้ง และคนญี่่ปุ่นหลายคน โดยเฉพาะคนแก่ไม่นิยมกินหัวกุ้งค่ะ นาน ๆ ทีจะได้กินกุ้งขาวที่มีหัวเพราะต้องออกไปซื้อที่ตลาดสึกิจิ หรือไม่ก็อุเอโนะ ซึ่งถึงจะไม่ไกลบ้าน แต่ก็ไม่ได้ใกล้พอจะไปได้ทุกวัน หรือทุกอาทิตย์
เอบิชิลิเป็นเมนูกุ้งสุดโปรดอีกหนึ่งเมนูค่ะ ปกติแล้วจะไม่ค่อยได้ทำ อาศัยไปนั่งกินตามร้านหรือไม่ก็ซื้อจากแผนกอาหารพร้อมรับประทานในซุปเปอร์ ซึ่งนึกแล้วก็แปลกดี วันนี้พึ่งจะได้ลองทำครั้งแรก ทำเสร็จก็ถ่ายรูปลงบล็อกกันแทบจะทันที เมนูนี้เป็นสูตรไดเอทนะคะะ เราจะไม่ได้เอากุ้งไปทอดแลัวเอามาผัดกับซอสเหมือนสูตรดั้งเดิม เราจะเอากุ้งคลุกกับส่วนผสมแล้วเอาเข้าไมโครเวฟเพื่อลดการใช้นํ้ามันค่ะ
ใครที่่ไม่ค่อยได้ใช้ไมโครเวฟปรุงอาหารไม่ต้องกังวลไปนะคะ ต๊ะก็ไม่ค่อยได้ใช้เหมือนกัน อ้าว 😅 เพราะกุ้งมีขนาดเล็กสุกง่าย สามารถใช้ไมโครเวฟปรุงได้ และใช้เวลาไม่นานค่ะ หรือถ้าใครไม่สะดวกใช้ไมโครเวฟจะเอาไปปรุงในหม้อหรือกระทะก็ได้ค่ะ
เอบิชิลิสูตรนี้นอกจากจะไขมันตํ่า ใช้นํ้ามันน้อย ยังโซเดียมตํ่ามาก ๆ มีปริมาณโซเดียมเพียง 1.6 กรัม ต่อหนึ่งที่เท่านั้นเอง เรียกว่าอร่อยได้ไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดการบวมนํ้าจากการทานอาหารที่มีปริมาณโซเดียมสูงเกินไปค่ะ
เอาล่ะค่ะ ตามมาดูสูตรกุุ้งผัดซอสพริก เอบิชิลิ (Ebi Chili) ที่่ต๊ะทำกินกับซาดาโอะ (โคชิไม่กินกุ้ง) ดีกว่า อร่อยน้า
ส่วนผสม สำหรับ 2-4 ที่่
พลังงาน 168 kcal ต่อ 1 ที่่
ปริมาณโซเดียม 1.6 กรัม ต่อ 1 ที่
กุ้งสดปอกเปลือก 200 กรัม
สาเก 1 ช้อนโต๊ะ
สำหรับซอส
ต้นหอมซอย 1 ช้อนโต๊ะ
หอมใหญ่สับ 1 ช้อนโต๊ะ
กระเทียมจีนสับ 1 กลีบ
ซอสมะเขื่อเทศ 2 ช้อนโต๊ะ
โชยุ 1/2 ข้อนโต๊ะ
นํ้าตาล 2/3 ช้อนชา
สาเก 1/2 ช้อนโต๊ะ
Tobanjan 1 ช้อนชา
นํ้าเปล่า 1 ช้อนโต๊ะ
นํ้ามันงา 2 ช้อนชา
แป้งมัน 2 ช้อนชา
วิธีทำ
1. แช่กุ้งในสาเกประมาณ 10 นาที เพื่อลดกลิ่นคาวและเพิ่มความกรอบเด้ง เสร็จแล้วล้างให้สะอาดใช้ paper towel ซับให้แห้ง
2. นำกุ้งไปผสมกับส่วนผสมซอสทั้งหมด เสร็จแล้วปิดด้วยฟิล์มแล้วเอาเข้าไมโครเวฟ 600 วัตต์ 3 นาที
3. พอครบเวลาแล้วอย่าพึ่งรีบเปิดฟิล์มนะคะ ด้านในยังระอุอยู่มาก อาจจะกระเด็นเลอะเทอะ และลวกมือได้ ทิ้งไว้ก่อนสักครู่
4. ตักใส่จานเสิร์ฟค่ะ
ลองทำกันดูนะคะ
No comments:
Post a Comment