สตรอว์เบอร์รี่ชอร์ทเค้ก (Strawberry Shortcake)

Monday, December 07, 2015


ถ้าใครเคยมาเที่ยวญี่ปุ่นคงจะพอทราบกันดีว่าร้านอาหารในญี่ปุ่นจะไม่มีบริการห่ออาหารขายให้กับลุูกค้า เว้นแต่ว่าจะเป็นร้านอาหารเอเชีย หรือประเทศอื่น แต่ถ้าเป็นขนมจะเรียกว่าตรงกันข้ามเลยทีเดียวนะคะ ไม่ว่าจะเป็นขนมญี่ปุ่น หรือขนมเค้ก ขนมอบเป็นฝรั่ง มีบริการแพคกลับบ้านเสียเป็นส่วนใหญ่

ต๊ะเองก็ชอบซื้อเค้กจากร้านเหมือนกันค่ะ เค้กในญี่ปุ่นมีราคาไม่แพงถ้าเที่ยบกับร้านที่ไทย ชิ้นเล็กๆ ขายตามซุปเปอร์ก็ตก 300-400 เยน ส่วนเรื่องคุณภาพและความพิถีพิถันนั้นต้องบอกว่าเต็มพิกัด นอกจากจะใช้วัตถุดิบคุณภาพสูงแล้วยังมีการแพคแบบที่เรียกว่าใส่ใจสุดๆ พนักงานจะถามเราก่อนว่าจะท่านตอนไหน เดินทางกลับบ้านใช้เวลานานเท่าไหร่ ทางร้านก็จะเตรียม ice pack ห้เพียงพอที่จะรักษาความสดของเค้ก ในร้านที่เนี้ยบหน่อยอาจจะปฎิเสธการขายถ้าเราบอกว่าจะกินพรุ่งนี้ เพราะกลัวว่ารสชาติและคุณภาพของขนมจะเสีย

สตรอวร์เบอร์รี่ชอร์ทเค้กเป็นหนึ่งในขนมเค้กที่ต๊ะนิยมซื้อ เพราะความอร่อยที่คุ้นเคย แถมราคาก็ไม่แพงถ้าเทียบกับเค้กแบบอื่นนะคะ ต๊ะเคยลงสูตรชอร์ทเค้กไว้นานแล้ว วันนี้ขอปรับสูตร เป็นสูตรใช้ไข่น้อย อบไม่นาน ใช้นํ้ามันงาขาวแทนเนย เคยใช้นํ้ามันงาขาวกันไหมคะ นํ้ามันตัวนี้ฮิตในหมู่คนทำเบเกอร์รี่ที่ญี่ปุ่่นมาสักพักแล้ว ว่ากันว่าจะทำให้เนื้อเค้กเบากว่าใส่เนย แถมยังดีต่อสุขภาพด้วย ต๊ะก็พึ่งเคยลองครั้งแรก ส่วนตัวต๊ะชอบนะ มันไม่มีกลิ่นแบบนํ้ามันงาปกตินะคะ คือไม่มีกลิ่นเลย ไม่ต้องห่วงว่าขนมจะมีกลิ่นหรือรสที่ไม่เข้ากันนะคะ ถ้าพอหาซื้อได้ก็ลุยเลยค่ะ ถ้าหาไม่ได้จริง ๆ ก็ใช้นํ้ามันพืชทั่วไปได้เลยค่ะ

เอาล่ะค่ะตามมาดูสูตรสตรอว์เบอร์รี่ ชอร์ทเค้ก (Strawberry Shortcake) ที่ต๊ะทำกินกับซาดาโอะ และโคชิดีกว่า อร่อยน้า

ส่วนผสม
ไข่ไก่ขนาดกลาง 2 ฟอง
น้ำตาล 60 กรัม
แป้งเค้ก 60 กรัม
น้ำมันงาสำหรับทำขนม 18 กรัม (ใช้น้ำมันรำข้าวแทนได้นะคะ)
นมสด 20 กรัม
น้ำเชื่อม
น้ำตาล 25 กรัม
น้ำเปล่า 50 มล.
เหล้า Grand Marnier 15 กรัม
สำหรับตกแต่ง 
วิปครีม 200 มล.
น้ำตาล 16 กรัม
วิธีทำ
1. ตอกไข่ใส่อ่างผสม ตีนิดหน่อย ใส่น้ำตาลลงไปทั้งหมด ตีด้วยสปีดตํ่าให้ส่วนผสมพอเข้ากัน แล้วย้ายอ่างผสมไปวางบนอ่างนํ้าร้อน หรือจะใช้กระทะหรือหม้อตั้งไฟค่อนข้างอ่อนก็ได้นะคะ สังเกตดูถ้าก้นกระทะมีฟองเล็ก ๆ อุณหภูมิจะได้ 70 -80 องศาเซลเซียส ระวังอย่าให้นํ้าร้อนจนเกินไป
2. ตีไข่บนน้ำร้อนด้วยสปิดตํ่าจนไข่อุ่นขึ้นประมาณ 40 องศา ใช้มือแตะดูก็พอค่ะ
3. เอานิ้วแตะดูจะรู้สึกอุ่น ถ้าไม่รู้สึกเอาวางบนอ่างน้ำร้อนอีกรอบ แล้วตีต่อนะคะ
4. เอียงอ่างผสม ตีด้วยความเร็วสูงประมาณ 3-4 (สปีดกลาง – สูง)

5. ตีจนส่วนผสมมีสีอ่อนลงและปริมาณเพิ่มขึ้นประมาณ 2.5-3 เท่า
6. ตีผสมต่อให้ฟองอากาศแข็งแรง ขยับหัวตีหมุนเป็นวงกลมไปรอบ ๆ อ่าง จะได้ทั่วถึง
7. เมื่อส่วนผสมเป็นเงา และเป็นรอยหัวตี แปลว่าจวนได้ที่แล้ว
8. ยกหัวตึขึ้น ส่วนผสมจะติดขึ้นมา ไหลแป็นสาย (ribbon stage)
9. ตีสปีดกลางเพื่อตัดฟองอากาศประมาณ 20-30 วินาที
10. แบ่งส่วนผสมออกมานิดหน่อย เติมนมอุ่น + นํ้ามันลงไป แล้วผสมให้เข้ากัน แล้วเทส่วนผสมกลับลงไปอย่างเบามือ (เทผ่านไม้พาย)
11. ใข้ไม้พายผสมให้เข้ากัน
12. ร่อนแป้งลงไป
13. ใช้ไม้พายงัดส่วนผสมขึ้นมา ให้แป้งกระจายออก หมุนอ่างผสมเข้าหาตัวเอง
14.  ลากไม้พายจากตรงกลางด้านบนลงมาด้านล่าง งัดส่วนผสมขึ้น ใช้มือซ้ายหมุนอ่างผสมเข้าหาตัวเอง ทุกครั้งที่ลากไม้พาย ก็ให้หมุนอ่างผสม ทำจนส่วนผสมเข้ากันดีนะคะ
16. พอส่วนผสมเป็นเงาแล้วยกขึ้นแล้วไหลเป็นทางเหมือนริบบิ้น เทใส่พิมพ์

17. อบที่ 180 องศาเซลเซียส 23-25 นาที ปรับตามเตาที่บ้านนะคะ

18. คว่ำพิมพ์ลงบนกระดาษไขที่วางบนตะแกรง ไม่ต้องลอกกระดาษไขออก ขนมจะไม่แห้ง
19. รอจนเย็นและเอาออกจากพิมพ์ สไลซ์เป็น 2 แผ่น หรือมากกว่าก็ได้นะคะ
20 เอาน้ำเปล่าผสมกับน้ำตาลใส่ในถ้วยเล็ก ๆ เอาเข้าไมโครเวฟ 600 วัตต์ประมาณ 20 วินาที จนน้ำตาลละลายแล้วเติมเหล้า ใช้แปรงจุ่มน้ำเชื่อม ทาให้ทั่ว

21. ตีวิปครีมกับน้ำตาลจนส่วนผสมเริ่มเห็นรอยหัวตี ยกขึ้นแล้วส่วนผสมจะโค้งเหมือนปากเหยี่ยว
22. ตกแต่งด้วยวิปครีมและผลไม้สดตามชอบ


พิมพ์ขนาด 15 ซ.ม.

ลองทำกันดูนะคะ










You Might Also Like

0 comments

My Portfolio

10 Best Bento Boxes & Accessories