ปอเปี๊ยะชิชาโมะ (Shishamo Wrap)
Friday, April 25, 2014
ชิชาโมะ หรือปลาไข่ญี่ปุ่นเป็นอาหารญี่ปุ่นอย่างแรกๆ ที่ต๊ะรู้จัก มีโอกาสได้กินบ่อยๆ ตั้งแต่ตอนเด็กๆ แล้วค่ะ เจอทีไรก็มักจะเป็นแบบย่างเกลือ ย่างซอส หรือถ้าต่างออกไปหน่อยก็จะเป็นทอด หรือชุบเกล็ดขนมปังทอด ที่จริงต๊ะเคยอยากเอามาลองทำแกงส้มดูบ้าง แต่ก็ยังไม่ได้ลงมือซะที ลืมบ้าง อะไรบ้าง เวลาซื้อปลาไข่มาก็จะเอามาย่างเป็นส่วนมาก ย่างเฉยๆ เกลือก็ไม่ใส่ แต่ต๊ะว่ามันก็อร่อยดีแบบธรรมชาติดี
เมื่อหลายเดือนก่อนต๊ะไปเจอสูตรชิชาโมะที่ไม่เคยเห็น ไม่เคยกินมาก่อน แต่ก็ปิ๊งทันที นั่นก็คือปอเปี๊ยะชิชาโมะที่เห็นด้านบนนั่นเองค่ะ สีเขียวๆ ข้างในเป็นชิโสะค่ะ ต๊ะถูกใจก็ตรงนี้แหละ ถ้าหาชิโสะไม่ได้ลองใส่ผักอย่างอื่นดูนะคะ ผักบุ้ง กะเพรา หน่อกะลา ได้หมด ขอให้เป็นผักที่สุกง่าย และเวลาทอดแล้วรสชาติออกมันๆ จะเข้ากันดีกว่า หรือถ้าหาผักเหมาะๆ ไม่ได้จริงๆ ใส่ชีสแทนได้ค่ะ
แป้งปอเปี๊ยะวันนี้ต๊ะเลือกใช้แบบบางหน่อย เพราะเวลาทอดจะได้ไม่ต้องห่วงว่าปลาจะไม่สุกทั่ว สำหรับคนที่ไม่ชอบความขมของไส้ปลา ควักออกก่อน หรือจะย่างปลาให้สุกก่อน ก็จะลดความขมของท้องปลาได้นะคะ แต่ต๊ะทำง่ายๆ ไม่ได้ทำอะไรกับท้องปลา ห่อ และก็ทอด เป็นอันเสร็จ สไตล์คนกินง่าย อยู่ง่าย เอหรือเรียกว่าขี้เกียจดี
เอาล่ะค่ะตามมาดูสูตรปอเปี๊ยะชิชาโมะ (Shishamo Wrap)ที่ต๊ะทำกินกับซาดาโอะ และโคชิดีกว่า อร่อยน้า
ส่วนผสม
ปลาไข่ 12 ตัว
ชิโสะ 12 ใบ
แป้งปอเปี๊ยะ 6 แผ่น
แป้งข้าวโพดผสมกับนํ้าเปล่านิดหน่อย
นํ้าจิ้มไก่/ซีอิ้ว/ซอสพริก สำหรับเสิร์ฟตามชอบ
นํ้ามันสำหรับทอด
วิธีทำ
1. ใช้กรรไกรตัดแบ่งแป้งปอเปี๊ยะเป็น 2 ส่วนเท่าๆ กัน เสร็จแล้ว เราก็จะได้แป้งทั้งหมด 12 แผ่น เสร็จแล้วเอาแป้งข้าวโพดกับนํ้าเข้าไมโครเวฟประมาณ 30 วินาที ออกมาคนให้เข้ากันก็จะได้แป้งเปียกไว้ติดปอเปี๊ยะแล้วค่ะ
2. เสร็จแล้วม้วนปลาไข่เลยค่ะ พอใกล้สุดแผ่นก็เอาใบชิโสะวางลงไป แล้วติดด้วยแป้งเปียกให้สนิทนะคะ เวลาทอดจะได้ไม่ระเบิด
ถ่ายรูปอาหารสีขาวบนพื้นสีขาวเนียยากจังเลย ถ้าไม่มีโต๊ะคงมองไม่เห็นหน้าปลาแน่เชียว
เสร็จแล้วเอาไปทอดนะคะ ระหว่างทอดต๊ะไม่ได้ถ่ายรูปไว้เลย เพราะกลัวว่านํ้ามันจะกระเด็นใส่กล้องใหม่
เวลาเสิร์ฟคนญี่ปุ่นนิยมจิ้มกับเกลือ ซีอิ้ว แต่ส่วนตัวต๊ะถ้าทำปอเปี๊ยะก็จะมีแต่นํ้าจิ้มไก่ นํ้าจิ้มบ๊วย หรือซอสมะขามใส่ถั่วลิสงบด อาจจะดูไม่ค่อยญี่ปุ่นสักหน่อย แต่เรื่องความอร่อยนั้นท้าให้ลองค่ะ
0 comments