ตั้งแต่ต๊ะกับซาดาโอะ และโคชิย้ายมาอยู่โตเกียวแม่ของซาดาโอะก็ส่งของกับเสบียงมาให้ไม่เคยขาด แม้หลายอย่างหรืออาจจะทุกอย่างเป็นของที่เราหาซื้อได้ที่โตเกียวได้ไม่ยากเย็น ก็นี่ล่ะนะความสุขของคนเป็นแม่ เมื่ออาทิตย์ก่อนแม่ของซาดาโอะส่งเนื้อวัวสำหรับทำสุกี้ยากี้มาจากเซนได อันนี้เป็นของฝากที่ต๊ะปลื้มใจที่ได้รับเป็นที่สุด ก็เนื้อสุกี้ยากี้น่ะราคาแพงระยับเชียวค่ะ ไม่ต้องเนื้อมัตสึซากะหรอก ต่อให้เป็นเนื้อโนเนม แต่มีคุณภาพสูงพอจะทำสุกี้ยากี้ได้มันก็แพงจนต้องเป็นมื้อพิเศษจริงๆ เท่านั้น ถึงจะซื้อหามากินกันได้
ฉะนั้นหลังจากเปิดกล่องต๊ะจึงมีความสุขล้น
เอาล่ะค่ะมาพูดถึงอาหารที่เราจะทำวันนี้ดีกว่า สุกี้ยากี้เป็นอาหารประเภทต้มที่นิยมกินกันในช่วงอากาศเย็น เหมือนกับนาเบะ และโอเด้ง ส่วนเครื่องปรุงหลักก็จะเป็นเนื้อวัว ผักสด ชิราตากิ ต้มในนํ้าซุปที่ทำจาก มิริน สาเก โชยุ และนํ้าตาล คนญี่ปุ่นนิยิมกินสุกี้ยากี้กับไข่ดิบ เหมือนกับที่คนไทยกินสุกีเอ็มเคกับนํ้าจิ้ม นํ้าซุปสุกี้ยากี้แบบญี่ปุ่นนั้นจะใส่แค่พอต้มอาหารให้สุก ไม่นิยมเอามาซดเหมือนนํ้าแกง
วันนี้ต๊ะทำสุกี้ยากี้เป็นอาหารเย็น จึงไม่ได้ถ่ายรูประหว่างทำเลย เพราะมันมืดมาก แต่ต๊ะก็คิดว่าทำตามกันได้ไม่มีปัญหาเพราะมันง่ายมากๆ ค่ะ เอาล่ะค่ะตามมาดูสูตรสุกี้ยากี้ที่ต๊ะทำกินกับซาดาโอะ และโคชิดีกว่า อร่อยน้า
ส่วนผสม
สำหรับ 4 ที่ 50 นาที
เนื้อสำหรับทำสุกี้ยากี้ 700 กรัม (ถ้าหาไม่ได้สไลด์เองเลยค่ะ ใช้สันคอหรือสะโพก)
ผักกาดขาว
เห็ดหอม
ชิราตากิ
ต้นหอมญี่ปุ่น
แครอท
ไข่ดิบสำหรับจิ้ม (ถ้าชอบ)
นํ้าซุปสุกี้ยากี้
นํ้าเปล่า 1/2 ถ้วย
คอมบุ 1 ชิ้น
โชยุ 1/4 ถ้วย
มิริน 1/2 ถ้วย
นํ้าตาล 3 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1. แช่คอมบุในนํ้าเปล่า 1/2 ชั่วโมง เสร็จแล้วเอาคอมบุทิ้งไป ใส่ส่วนผสมนํ้าซุปทั้งหมด แล้วนำไปตั้งไฟจนนํ้าตาลละลาย จากนั้นลวดชิราตากิเพื่อลดนํ้าส่วนเกิน และจะช่วยให้ชิราตากิเก็บรสชาติของนํ้าซุปได้ดียิ่งขึ้นค่ะ
2. แบ่งนํ้าซุปประมาณ 3 ช้อนโต๊ะ แล้วนำไปรวนเนื้อให้พอสุก เพื่อไม่ให้เนื้อหด และแข็งเวลาเอาไปต้ม(ถ้าเราเชื่อมันในคุณภาพเนื้อวัวที่ซื้อมาจะไม่ทำก็ได้ค่ะ)
3. เอานํ้าซุปที่ได้ใส่หม้อสำหรับต้มสุกี้ยากี้ จะเป็นหม้อแบบไหนก็ได้ค่ะ แต่น่าจะเป็นหม้อที่ตื้นหน่อย
เพราะนํ้าซุปมีนิดเดียว และเป็นหม้อที่สามารถเอามาปรุงอาหารบนโต๊ะกินข้าวได้
4. ใส่เนื้อวัว และผักลงไปต้ม พอเนื้อสุกแล้วจิ้มกับไข่ดิบตามชอบ เสิร์ฟพร้อมข้าวส่วยร้อนๆ อร่อย
No comments:
Post a Comment