ทานาบาตะ เป็นเท่ศกาลหนึ่งใน 3 เทศกาลใหญ่ของแถบโทโฮกุ ว่ากันว่าเทศกาลทานาบาตะที่เซนไดนั้นยิ่งใหญ่ งดงามและมีชื่อเสียงมาก ทุกปีจะมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลมาจากทุกสารทิศเพื่อร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลนี้ เทศกาลทานาบาตะจะจัดขึ้นในวันที่ 7 สิงหาคมของทุกปี แตกต่างจากโตเกียวและในหลายเขตที่จัดขึ้นในวันที่ 7 กรกฎาคม เนื่องจากเซนไดยังนับวันตามปฏิทินจันทรคตินั่นเอง
มาพูดถึงตำนานอันแสนโรแมนติกของเทศกาลทานาบาตะกันหน่อยดีกว่า หลายๆ คนน่าจะรู้จักหรืออย่างน้อยก็เคยได้ยินเรื่องราวความรักระหว่างเจ้าหญิงทอผ้ากับชายเลี้ยงวัวมาบ้าง มาฟังกันอีกรอบนะคะ เรื่องมีอยู่ว่า กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วมีธิดาของเทพผู้ครองสรวงสวรรค์องค์หนึ่งนามว่าโอริฮิเมะ (Orihime : ดาววีก้า) เจ้าหญิงโอริฮิเมะมีถิ่นพำนักอยู่ที่ริมฝั่งแม่นํ้าอามาโนะกาว่า (Amanogawa) ซึ่งก็คือทางช้างเผือก หรือแม่นํ้าแห่งสวรรค์ เจ้าหญิงมีหน้าที่ทอผ้าให้ทวยเทพบนสรวงสวรรค์ จึงมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า"เจ้าหญิงทอผ้า"
ผ้าที่เจ้าหญิงโอริฮิเมะทอขึ้นนั้นมีความสวยงาม ละเอียดอ่อน เป็นทีโปรดปรานของเหล่าเทพยิ่งนัก เจ้าหญิงจึงต้องทอผ้าทั้งวันทั้งคืน เทพผู้ครองสรวงสวรรค์จึงรู้สงสารและเป็นห่วงธิดา จึงอยากให้เจ้าหญิงได้มีคู่ครอง และได้ประกาศหาคู่ให้นาง เจ้าหญิงโอริฮิเมะได้พบและต้องตาต้องใจกับชายหนุ่มชื่อฮิโกโบชิ (Higoboshi : ดาวอัลแตร์) ฮิโกโบชิเป็นชายเลี้ยงวัวอาศัยอยู่อีกฝั่งของทางช้างเผื่อก
หลังจากทั้งสองได้แต่งงานกันทั้งสองกลับละเลยหน้าที่ของตน เจ้าหญิงโอริฮิเมะไม่ทอผ้าอย่างขยันขันแข็งเหมือนก่อน ส่วนฮิโกโบชิก็ปล่อยวัวเดินเกะกะอยู่ทั่วสวรรค์ เทพผู้ครองสรวงสวรรค์ทรงพิโรธจึงลงโทษทั้งสองให้แยกจากกันอยู่คนละฟากของทางช้างเผือก และห้ามไม่ให้ทั้งสองพบกันอีก
เจ้าหญิงโอริฮิเมะเศร้าโศกเสียพระทัยเป็นอย่างมากที่ต้องพรากจากชายอันเป็นที่รัก ทรงกรรแสงครํ่าครวญอย่างหนัก จนเทพแห่งสรวงสวรรค์ทรงเห็นใจอนุญาตให้ทั้งสองได้พบกันปีละหนึ่งครั้ง ในวันที่ 7 เดือน 7
แต่เมื่อถึงเวลาที่ทั้งสองจะได้พบกัน ทั้งสองก็ไม่สามารถข้ามทางช้างเผือกมาได้เพราะไม่มีสะพาน เหล่านกกระสาเห็นใจในความรักของทั้งคู่ จึงพากันมาบินเกาะกลุ่มเป็นทางยาวเพื่อให้ทั้งสองใช้เดินต่างสะพาน และได้พบกันสมความปรารถนา
ธรรมเนียม
ชาวญี่ปุ่นจะฉลองเทศกาลนี้ด้วยการเขียนความปรารถนาของตนลงในกระดาษหลากสีแล้วนำไปติดที่ต้นไผ่
เซนได ทานาบาตะ
ที่เซนไดงานทานาบาตะจะจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ถนนทุกสายจะถูกประดับประดาไปต้นไผ่น้อยใหญ่ และริ้วกระดาษหลากสีที่แต่งแต้มสีสัน และเสน่ห์ให้กับเมืองทั้งเมือง
การแต่งตัว
ในวันงานเทศกาสทานาบาตะผู้คน (โดยเฉพาะผู้หญิง) จะแต่งตัวสวยงามเป็นพิเศษ ชุดที่ฮิตมากก็คือชุดยูกาตะ ซึ่งจะให้อธิบายง่ายที่สุดก็คือชุดกิโมโนแบบกึ่งทางการนั่นเอง ต๊ะมีอยู่กับเขาชุดหนึ่งเหมือนกัน ตอนได้มาต้องไปเรียนวิธีใส่ด้วย จำได้ว่าตอนที่เรียนเพื่อนคนหนึ่งถ่ายวิดิโอ อีกคนจดวิธีใส่พร้อมภาพประกอบ ส่วนต๊ะน่ะหรอไม่ทำอะไรเลย แถมคิดอีกว่ามันจะอะไรนักหนากะอีแค่ใส่เสื้อ ตอนนี้นะหรอ 55 ไม่เหลืออะไรอยู่ในหัวแล้วล่ะ ชุดยูกาตะที่น่าสงสารก็เลยถูกพับเก็บไว้ที่ชั้นล่างสุดของตู้ คิดแล้วมันน่าโมโหตัวเองจริงๆ
ริ้วกระดาษ
ริ้วกระดาษในงานทานาบาตะจะถูกสร้างขึ้นตามจินตนาการของผู้ทำ บางทีก็มีสปอนเซอร์มาเกี่ยวข้องบ้าง ก็ริ้วกระดาษสวยๆ ที่เห็นเนี่ยถึงจะทำจากกระดาษ แต่ราคาไม่ถูกเลยนะคะ ต๊ะเคยเห็นทั้งแบบการ์ตูนซานริโอ้ รูปสถานที่ท้องเที่ยว รูปพัด รูปดอกไม้ไฟ แต่หนึ่งในธีมยอดฮิตนั่นก็คือนกกระสา ซึ่งหมายถึงความหวังนั่นเอง
ของกินของฝาก
เที่ยวเสร็จแล้วอย่าลืมซื้อของฝากกลับไปฝากคนที่บ้าน หรือกินเองนะคะ ของกินของฝากที่เซนไดมีมากมาย ที่ขึ้นชื่อและต๊ะชอบมีดังนี้
ลิ้นวัวย่าง (Gyutan) ลิ้นวัวย่างถ่านเป็นของอร่อยขึ้นชื่อของเซนได ต๊ะเคยนึกว่าลิ้นจะรสชาติคาวๆ และเหนียวแบบหนังยาง แต่จริงๆ แล้วไม่เลย ลิ้นวัวนุ่มเหมือนแฮมแต่เหนียวกว่า มีให้เลือกทั้งรสเกลือ ซีอิ้ว และมืโซะ
ซุนดะ (Zunda) หรือถั่วแระญี่ปุ่นกวน ทำเป็นไส้ขนมโมจิ หรือห่อโมจิ อร่อยมาก
No comments:
Post a Comment