ครีมโคโรเกะปู (Crab Cream Korokke)
Monday, August 13, 2012โคโรเกะ เป็นอาหารทอดของญี่ปุ่นที่ได้รับอิทธิพลจาก Croquette อาหารฝรั่งเศส โคโรเกะเป็นอาหารที่ฮิตมากในญี่ปุ่น ถึงอาจจะไม่เจอโคโรเกะในร้านอาหารหรูๆ แต่จะเห็นในซุปเปอร็มาเก็ต และร้านสะดวกซื้อแทบทุกร้าน มื้อไหนอยากประหยัดงบอาหารต๊ะก็จะซื้อกลับบ้านมากินกับข้าว ถ้าวันไหนโชคดีได้เจอโคโรเกะที่ทอดใหม่ๆ ด้วยแล้วล่ะก็.. อร่อยจนไม่อยากแบ่งใคร
ในญี่ปุ่นมีโคโรเกะให้เลือกมากมายหลายรส แต่ถ้าจะแบ่งตามวิธีเตรียมก็มีแค่ 2 แบบเท่านั้นเองค่ะ คือแบบที่ใช้มันฝรั่งกับแบบที่ใช้ซอสครีม (bechamel) เป็นส่วนผสมหลัก 5-6 เดือนก่อนต๊ะเคยลองทำโคโรเกะแบบใช้มันฝรั่งไปแล้ว วันนี้จะทำครีมโคโรเกะดูบ้าง แน่นอนว่ามันยากกว่า แต่ก็ยังจัดว่าง่ายถ้าเทียบกับทงคัตสึหรือเทมปุระ (อันนี้ความเห็นส่วนตัว)
วันนี้ต๊ะทำครีมโคโรเกะปูหรือที่คนญี่ปุ่นเรียกว่า Kani Kurimu Korokke, カニクリームコロッケใครไม่ชอบเนื้อปูหรือหาไม่ได้ก็ใส่เนื้อกุ้งแทนนะคะจะได้ครีมโคโรเกะกุ้ง Ebi Kurimu Korokke, エビクリームコロッケ แทน อร่อยเหมือนกัน
หรือใครอยากจะอัพเกรดให้เป็นอาหารไฮโซจะใส่ไข่หอยเม่นก็ลองดูได้ ทำเสร็จแล้วเป็นยังไงบอกกันบ้างก็ดีนะคะ
หรือใครอยากจะอัพเกรดให้เป็นอาหารไฮโซจะใส่ไข่หอยเม่นก็ลองดูได้ ทำเสร็จแล้วเป็นยังไงบอกกันบ้างก็ดีนะคะ
ช่วงนี้อากาศโตเกียวร้อนระอุ มาติดเตาแก๊สทำอาหารทอดๆ เนี่ย รู้สึกเลยว่าทำให้บ้านร้อนขึ้นกว่าเดิมอีก แถมในครัวก็ไม่มีทั้งพัดลม และแอร์ แต่ในเมื่อเราอยากกินซะอย่างอะไรจะมาห้ามเราได้ จริงไหม
เอาละค่ะตามมาดูสูตรครึมโคโรเกะปูที่ต๊ะทำกินกับซาดาโอะและโคชิดีกว่า อร่อยน้า
ส่วนผสม
เนย 3 ช้อนโต๊ะ
หอมใหญ่ลูกเล็กสับหยาบ ๆ 1 ลูก
วิปปิ้งครีม 100 มล.
นม 100 มล.
แป้งสาลี 40 กรัม
เกลือ 1 1/4ช้อนชา
พริกไทย 1/4 ช้อนชา
นํ้าตาล 1/2 ช้อนชา
เนื้อปู 100 กรัม
เมล็ดข้าวโพดต้มสุก 80 กรัม
------------------------------------
ไข่ไก่ 1 ฟอง
แป้งสาสี
เกล็ดขนมปัง (Panko)
ซอสทงคัตสึสำหรับเสริ์ฟ
นํ้ามันสำหรับทอด
ซอสทงคัตสึสำหรับเสริ์ฟ
นํ้ามันสำหรับทอด
วิธีทำ
1. ละลายเนยในกระทะ ใส่หอมใหญ่ลงไปผัดจนสุก ใส่นมแล้วตามด้วยวิปปิ้งครีม เกลือ นํ้าตาล พริกไทยจากนั้นใส่แป้งสาลี (ส่วนที่1) ข้าวโพดและเนื้อปูลงไปผัดจนได้ซอสข้นๆ ปิดไฟ ทิ้งไว้ให้เย็น
2. เอาซอสแช่ตู้เย็นประมาณ 1-2 ชั่วโมง จนเซ็ตตัวดี (ต๊ะแช่ข้ามคืนไว้เลย เพราะอยากทำเป็นอาหารเช้า)
3. ตีไข่ใส่ชาม เตรียมแป้งสาลีกับเกล็ดขนมปังใส่จานไว้ เอาซอสออกมาจากตู้เย็น เอานํ้ามันทามือเล็กน้อยแบ่งซอสเป็น 6 ส่วนเท่าๆ กัน ปั้นเป็นก้อน ความจริงแล้วครีมโคโรเกะนิยมปั้นเป็นก้อนรีๆ มากกว่าก้อนกลม แต่ต๊ะคิดเอาเองว่าแบบกลมแบนน่าจะทอดง่ายกว่า แต่ความจริงมันก็ไม่เกียวกันหรอกค่ะ อยากปั้นแบบไหนก็ตามสะดวกนะคะ
4. ปั้นเสร็จแล้วชุบแป้ง ชุบไข่ และก็เกล็ดขนมปัง
5. เสร็จแล้วเอาเข้าช่องแข็งประมาณ 10 นาที เพื่อให้เซ็ตตัวดี โคโรเกะของเราจะได้ไม่แตกระหว่างทอด
6. ตั้งกระทะใส่นํ้ามัน รอให้นํ้ามันร้อนประมาณ 180 องศา ใส่โคโรเกะลงไปทอดค่ะ อย่าใส่ครั้งละมากๆ นะคะ อุณหภูมินํ้ามันจะลดลงโคโรเกะจะไม่กรอบ ต๊ะทอดครั้งละชิ้นเท่านั้นเอง ทอดให้ด้านหนึ่งเป็นสีนํ้าตาลทองก่อนแล้วค่อยพลิกนะคะ อย่าพลิกบ่อยนะคะ โคโรเกะจะแตก
6. ตั้งกระทะใส่นํ้ามัน รอให้นํ้ามันร้อนประมาณ 180 องศา ใส่โคโรเกะลงไปทอดค่ะ อย่าใส่ครั้งละมากๆ นะคะ อุณหภูมินํ้ามันจะลดลงโคโรเกะจะไม่กรอบ ต๊ะทอดครั้งละชิ้นเท่านั้นเอง ทอดให้ด้านหนึ่งเป็นสีนํ้าตาลทองก่อนแล้วค่อยพลิกนะคะ อย่าพลิกบ่อยนะคะ โคโรเกะจะแตก
7. ทอดจนสุกเป็นสีนํ้าตาลทองทั้งสองด้าน แล้วตักขึ้นวางบนตะแกรงพักไว้ให้สะเด็ดนํ้ามัน ตอนนี้ซาดาโอะแอบเข้ามาดูแล้วแซวว่าโคโรเกะมันแก่ไฟจัง 555 เออ ก็จริงของเค้านั่นแหละ
8. เสร็จแล้วค่ะโคโรเกะกรอบนอก นุ่มใน จะกินเล่นหรือกินกับข้าวก็อร่อย ลองทำกันดูนะคะ
Note: หากต้องการโคโรเกะเนื้อครีมค่อนข้างเหลวเหมือนสังขยา ให้ลดแป้งส่วนที่ 1 ลงเหลือ 3 ช้อนโต๊ะ และไม่ต้องใส่หัวหอม นำซอสครีมเทใส่พิมพ์แล้วแช่แข็งไว้ข้ามคืน แล้วนำออกจากพิมพ์ไปชุบแป้ง ชุบไข่ เกล็ดขนมปังแล้วเอาไปทอดนะคะ
Similar Recipe : Korokke
2 comments
ชอบคิดว่าปั้นแบบกลม ๆ แบน ๆ น่าจะทอดง่าย สุกเร็วกว่าแบบกลม ๆ ซึ่งกลัวว่าถ้าไฟแรงเกินจะทำให้ข้างในไม่สุกดีน่ะค่ะ ... :P
ReplyDeleteยิ่งถ้าเป็นอาหารทอดแบบมีไส้ ก็จะยัดไส้ซะแตกประจำ (-_-!) งกไส้ค่ะ
คิดเหมือนกันเลยค่ะ แต่ต๊ะว่าถ้าเราไม่ขี้เหนียวนํ้ามันถึงจะปั้นแบบกลมก็ไม่น่าจะเป็นไร ไว้คราวหน้าลองทำแบบกลมบ้างดีกว่า ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมกันนะคะ
ReplyDelete