ตอนนี้เข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิอย่างเป็นทางการแล้วนะคะ แต่อากาศที่โตเกียวก็ยังหนาวอยู่มากเมื่อเทียบกับเดือนมีนาของปีที่แล้ว อากาศหนาวเหน็บแบบนี้นอกจากพืชผักต่างๆ จะมีราคาแพงระยับแล้ว เทศกาลชมดอกไม้ที่ว่าจะจัดก็มีอันต้องเลื่อนออกไปหลายต่อหลายรอบ เนื่องจากไม่มีดอกไม้จะให้ชมนั่นเอง

ต๊ะ ซาดาโอะ และโคชิ ตั้งท่าจะไปดูดอกบ๊วยมา 2 อาทิตย์แล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ไปซะที จนถึงวันนี้ดูรูปในอินเตอร์เน็ตเห็นแล้วว่าบานประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ และวันนี้อากาศแจ่มใส่ ท้องฟ้าเปิดทั้งวัน ค่อนข้างแน่ใจว่ายังไงซะวันนี้คงไม่เสียเที่ยว

สถานที่ทีเราไปดูดอกบ๊วยในปีนี้แน่นอนว่ายังอยู่ในโตเกียวเหมือนเดิม แต่แน่นอนว่าเป็นที่ที่เราไม่เคยไปมาก่อน วันนี้เป้าหมายเราอยู่ที Yushima Tenjin ศาลเจ้าชื่อดังแห่งย่าน Ueno นั่นเอง 

เมื่อมาถึงแล้วมองเห็นได้ชัดจากอีกฟากของถนนเลยว่าดอกบ๊วยยังไม่บานเต็มที่อย่างที่บอกนะคะ แต่ถึงจะยังไม่บานสะพรั่ง แต่มันก็สวยพอที่จะทำให้ทุกคนที่มาเที่ยวชมมีความสุข 

เทศกาลชมดอกบ๊วยนั้นจัดขึ้นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนมีนาคมค่ะ ในแต่ละปีจะไม่เหมือนกันเนื่องจากอากาศแต่ละปีนั้นไม่เหมือนกันซะทีเดียว ดอกไม้บานช้าบ้างเร็วบ้างต่างกันไปค่ะ

 

เทศกาลชมดอกบ๊วยวันนี้ตามกำหนดการเดิมจบไปแล้วค่ะ แต่ก็ต้องเลื่อนมาแล้วหลายครั้งเนื่องจากดอกบ๊วยปีนี้บานช้ามาก 

เอาล่ะค่ะ เราเข้าไปดูด้านในดีกว่า ข้างในงานก็จะคล้ายงานเทศกาลของญี่ปุ่นทั่วๆ ไป คือก็จะมีการออกร้านค้า ร้านยากิโซบะ ทาโกะยากิ ร้านตักปลาทอง ขายของเล่น แต่ที่ไม่เหมือนและรับรองว่าไม่มีที่ไหนก็คือร้านขายบ๊วยค่ะ มีทั้งบ๊วยดอง ขนมรสบ๊วย มีต้นบ๊วยออกดอกบานสะพรั่งขายกันด้วยค่ะ

ต๊ะขอถ่ายรูปคุณยายเจ้าของร้านขายบ๊วยรีบมุดลงไปใต้โต๊ะเลยค่ะ เลยได้มาแต่รูปบ๊วยนี่ล่ะ

พูดถึงดอกบ๊วยแล้วต๊ะมองไม่เห็นความแตกต่างจากซากุระเท่าไหร่ หากเทียบกันดอกต่อดอกแล้วคล้ายกันมาก แต่ถ้าถามว่าต่างกันยังไงแล้ว สำหรับต๊ะที่ชัดที่สุดคือกลิ่นค่ะ ดอกบ๊วยมีกลิ่นหอมฉุนชนิดที่ว่ายืนอยู่ใต้ต้นก็ได้กลิ่นค่ะ แต่ซากุระนั้นมีกลิ่นหอมอ่อนๆ คงต้องไปดมที่ดอกถึงจะได้กลิ่น อีกอย่างหนึ่งก็คือช่อดอกบ๊วยนั้นมีขนาดค่อนข้างเล็กเวลาบานจะไม่คลุมกิ่งทั้งหมดค่ะ ส่วนซากุระนั้นช่อค่อนข้างใหญ่เวลาบานก็จะบานพรึ่บมองไม่เห็นกิ่งก้าน บานทีไรชมพูหวานไปทั้งเมือง 

ศาลเจ้า Yushima Tenjin ที่ต๊ะมาเที่ยววันนี้นอกจากจะโด่งดังด้านเทศกาลชมดอกบ๊วยแล้ว ยังเป็นศาลที่เหล่านักเรียนญี่ปุ่นมาขอพรขอให้ประสบความสำเร็จในด้านการศึกษา วันนี้ก็มีเด็กญี่ปุ่นหลายคนมาขอพรอย่างที่เห็นนั่นล่ะค่ะ  

ศาลเจ้าแห่งนี้หากไม่ได้มาช่วงเทศกาลชมดอกไม้ ก็จะหาอาหารกินยากสักหน่อย แม้ว่าจะอยู่ใจไกลเมืองก็ตาม เดินรอบศาลเจอร้านราเมนร้านเดียว แถมไม่ค่อยอร่อยอีก :-( หากไม่ได้มาช่วงเทศกาลแล้วน่าจะหาอะไรรองท้องมาก่อนนะคะ 

หากจะมาเที่ยวเทศกาลชมดอกไม้เช็คข้อมูลกันก่อนนะคะ จะได้ไม่เสียเที่ยว ส่วนการเดินทางมาศาลเจ้าแห่งนี้ สามารถมาได้ด้วยรถไฟหลากหลายสายค่ะ เพราะเป็นศาลใหญ่ใจกลางเมือง วันนี้เราเลือกมารถไฟใต้ดินสาย Oedo ลงที่สถานี Ueno- Okachimachi แล้วเดินต่อไปแค่ประมาณ 5 นาทีเท่านั้นค่ะ จากศาลเจ้าแห่งนี้สามารถเดินชิลล์ๆ ไปยังตลาดอาเมโยโกะได้นะคะ