ต๊ะไม่ได้เขียนเรื่องท่องเที่ยวมาพักใหญ่แล้วค่ะ เพราะไม่ค่อยได้ไปไหนไกลบ้านเท่าไหร่
วันนี้ได้โอกาสเหมาะ อากาศดี เลยตั้งใจว่าจะไปดูใบไม้เปลี่ยนสีที่ภูเขา Tsukuba กันค่ะ
เราซื้้อตั๋วไปกลับราคา 4,040 เยน โดยออกเดินทางจากสถานีรถไฟ Kita Senju ในราคานี้รวมค่ารถไฟ
รถเมล์ และเคเบิล คาร์ เรียบร้อย สะดวก และประหยัดไปได้ประมาณคนละ 400 เยนค่ะ
แต่พอไปถึงอากาศกลับเย็นลง และมีฝนตกด้วย ใบไม้ก็ยังไม่เปลี่ยนสีอีก
ตลอดเส้นทางขึ้นเขามีร้านค้าขายของที่ระลึกนับสิบร้านค่ะ ทุกร้านจะต้องมีตุ๊กตากบ
มายืนรอรับลูกค้าด้านหน้า น่ารักเชียวค่ะ
ซาดาโอะบอกว่าแถวนี้ไม่ใช้แมวเรียกลูกค้า แต่ใช้กบค่ะ เพราะว่ากบถือเป็นของดีประจำถิ่น
เค้าไม่กินค่ะ แต่เอามาทำเครื่องสำอาง
รูปปั้นกบเรียงรายตลอดสองข้างทาง |
ต๊ะ ไม่เคยใช้เครื่องสำอางที่ทำจากกบมาก่อน แต่ได้ยินว่าใช้ดีเหมือนกัน เข้าไปลองทามือดู
มือก็นิ่มดีเหมือนกันค่ะ
ขึ้นมาบนภูเขาก็จะเจอพ่อค้าขายเครื่องสำอาง ทดสอบผลิตภัณฑ์ให้ลูกค้าดู
โดยเอาดาบคม ๆ กรีดลงไปบนผิวที่ทาโลชั่นกบ คนมามุงดูเยอะมากค่ะ บางคนถ่ายวีดีโอด้วย
ต๊ะเห็นแล้วหวาดเสียวมาก แต่เลือดก็ไม่ออกนะคะ แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นมายากลรึเปล่า
ลีลาพ่อค้าเครื่องสำอาง |
นอกจากกบแล้ว ภูเขาแห่งนี้ก็ยังมีเรื่องราวน่าสนใจอีกเยอะค่ะ ในวันที่อากาศสดใสจะมองเห็นความงามของภูเขาที่แตกต่างกันไปใน 4 ฤดูได้อย่างชัดเจนค่ะ
ทางขึ้นเขาไม่ลำบาก เด็กเล็ก หรือ คนแก่ก็ขึ้นได้ สบายมากค่ะ
ที่ทางขึ้นเขามีศาลเจ้าชินโต ก่อนขึ้นเขาแวะไหว้พระขอพร กันก่อนได้ค่ะ
ขึ้นไปถึงยอดเขามีร้านอาหารหลายร้านค่ะ ขึ้นมาข้างบนแล้วอากาศจะยิ่งเย็นลง
จะเน้นอาหารร้อน ๆ เป็นส่วนมาก
ต๊ะกินซึคุบะ อุด้งค่ะ เป็นอาหารประจำถิ่นของที่นี่ เป็นอุด้งร้อนในนํ้าซุปที่น่าจะทำจากปลา
ใส่หัวไชเท้า เต้าหู้ มันฝรั่ง แครอท และลูกชิ้นค่ะ ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน อร่อยดีค่ะ
ปิดท้ายทริปด้วยของกิน ของฝากค่ะ นอกจากโลชั่นกบแล้วก็มี ถั่วเน่า ที่ถือเป็นของดีประจำถิ่น
ถ้าชอบถั่วเน่า รับรองว่าไม่ผิดหวังค่ะ
ขนมรสถั่วเน่า ตุ๊กตากบและนกฮุกตัวน้อย |
No comments:
Post a Comment