Monday, July 11, 2011

พักกาย.. พักใจที่สวนคิโยสุมิ (Kiyosumi Garden)


ตอนที่ย้ายมาโตเกียวใหม่ ๆ จำความรู้สึกของตัวเองได้ว่ามีหลายอย่างให้ประหลาดใจ โตเกียวของจริงไม่เหมือนที่จินตนาการไว้เลย ไม่มีตึกสูงมากมาย มีอยู่ก็แค่ย่านทำงานซึ่งก็น้อยมากเมื้อเทียบกับกรุงเทพ (อาจจะเพราะแผ่นดินไหวบ่อยเหลือเกิน) รถรามีน้อย กลางคืนเงียบเหมือนไม่ใช่เมืองหลวง เพราะคนไม่ค่อยใช้รถกัน ของไฮเทคต่าง ๆ มีบ้างแต่ก็ไม่ได้มากเท่าที่คิดไว้

และความน่ารักของโตเกียวอย่างหนึ่งก็คือสวนขนาดเล็ก ๆ ที่มีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสวนสาธารณะแบบสวนรถไฟที่มีสนามเด็กเล่น ให้เด็ก ๆ ได้ไปวิ่งเล่น และผู้ใหญ่ไปวิ่งออกกำลังกาย ปิกนิค หรือสวนดอกไม้ใหญ่น้อยที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วเมือง

Kiyosumi Garden สวนญี่ปุ่นแสนสวยที่จะพาไปเที่ยววันนี้ไม่ใช่สวนสาธารณะแบบเข้าฟรีค่ะ ถ้าอยากเข้าก็ต้องจ่ายค่าเข้า แต่ก็คุ้มนะคะสำหรับที่บ้านเพราะปกติแล้วครอบครัวเราก็นั่งแช่กันทั้งวันนั่นแหละค่ะ จนกว่าเสบียงจะหมด ข้อดีของสวนที่มีค่าเข้าชมก็มักจะเงียบสงบกว่าสวนที่เข้าออกได้ฟรีนะคะ ตรงนี้น่าจะถูกใจคนที่อยากเบรคจากความวุ่นวายของย่านร้านค้า ที่ช้อปปิ้งดัง ๆ

วันที่เรามาเที่ยวกันนี้เป็นวันฟ้าใสค่ะ หน้าทางเข้าก็เลยคราครํ่าไปด้วยนักท่องเที่ยว ก็ชาวญี่ปุ่นนั่นแหละค่ะ ส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าว ตื่นเต้นกันน่าดู น่ารักดีนะคะ แต่เข้าไปข้างในทุกคนก็เงียบเรียบร้อยกันหมด ดีจังเลย วันนี้ถึงจะเข้าหน้าร้อนแล้ว แต่ข้างในก็ร่มรื่นมาก ๆ ค่ะ เพราะมีต้นไม้ใหญ่อย่างต้นสนเต็มไปหมด จะนั่งกินเบนโตะ หรือนั่งให้ดูปลาคาร์ฟ ก็เย็นสบายหายห่วงค่ะ

ทางเดินที่ทำจากหินก้อนใหญ่ ๆ เป็นเอกลักษณ์ของสวนแห่งนี้ที่ไม่สามารถหาดูได้ที่อื่นนะคะ ถ้าเป็นวันที่คนไม่พลุกพล่านจะเห็นนกใหญ่น้อยมายืนหาปลาอยู่เต็มไปหมด



สวนแห่งนี้เดิมทีเจ้าของคือ คิโนคุนิยะ คหบดีผู้มั่งคั่งแห่งยุคเอโดะ ซึ่งต่อมามีการเปลี่ยนเจ้าของหลายครั้ง จนมาถึงช่วงปี 1878 ผู้ก่อตั้งบริษัทมิตซูบิชิ ได้ซื้อสวนแห่งนี้เพื่อให้พนักงานบริษัทไว้ใช้เป็นที่พักผ่อน น่าอิจฉาพนักงานบริษัทนี้จังนะคะ ซึ่งช่วงนี้เองได้มีการปรับปรุงสวนครั้งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นการขุดสระนํ้าขนาดใหญ่ การสร้างภูเขา และนํ้าตกจำลอง จนเป็นสวนสวยอย่างทุกวันนี้นี่ล่ะค่ะ ปัจจุบันมิตซูบิชิได้ยกสวนญี่ปุ่นแห่งนี้ให้เทศบาลเมืองโตเกียวเป็นที่เรียบร้อยค่ะ 


สวนคิโยสุมิ อาจจะไม่ได้เด่นดังในการชมดอกไม้หรือดูใบไม้เปลี่ยนสี เพราะความที่ขนาดไม่ได้ใหญ่มาก มีต้นไม้ไม่มากนัก แต่แน่นอนค่ะว่าสวยทุกฤดู

ถ้ามาหน้าร้อน อาจจะทันได้เห็นดอกไฮเดรนเยียที่ปลูกไว้ริมทางเดินบานสะพรั่ง ให้สีสันสดใสตัดกับสีเขียวของต้นไม้ และบ่อนำ้ สวยแปลกตาไม่เหมือนที่ไหน


ถึงที่นี่ไม่มีต้นซากุระพันธุ์โยชิโนะ แต่ก็มียาเอะซากุระ ซากุระพันธุ์กลีบซ้อนที่บานช้ากว่า บานทนกว่า และก็ไม่ได้สวยน้อยกว่าเลยนะคะ



การเดินทาง มารถไฟสะดวกที่สุดค่ะนั่ง Toei-O-edo Line/ Hanzomon Line มาลงที่ Kiyosumi-Shirakawa แล้วเดินต่อประมาณ 5 นาทีก็ถึงค่ะ 

ของกิน ของฝาก แถวนี้มีร้านค้าไม่คึกคึกเท่าไหร่นะคะ เทียบกับย่านดังอย่างอาซากุสะ แต่ก็พอมีที่ให้เราฝากท้อง ซื้อของฝากบ้างนะคะ ถ้ามาที่นี่ต๊ะชอบไปกินราเมนที่ ยามาโกย่า ราเมน ราเมนสไตล์ฟูกุโอกะ ที่ปริมาณเส้นไม่มากเกินกำลังกระเพาะสาวไทยอย่างเรา

ส่วนของฝากก็จะมีขนม ผ้า ของใช้แบบสมัยเก่า แต่ไม่น่าจะเก่าถึงเอโดะนะคะ น่าจะประมาณยุคแฟนฉันนี่ล่ะค่ะ

มาเที่ยวโตเกียวอย่าลืมแวะ Kiyosumi Garden นะคะ

No comments:

Post a Comment