Monday, July 18, 2011

ปูจ๋า (Stuffed Crab)


ปูจ๋าเป็นหนึ่งในอาหารหลายๆ อย่างที่ต๊ะไม่แน่ใจในสัญชาติ ตอนเด็กๆ เคยเห็น เคยกินทุกครั้งที่ไปเที่ยวตลาดหนองมน ก็เข้าใจและมั่นใจว่าเป็นอาหารไทยแท้แน่นอน โตขึ้นมามีโอกาสไปไหนต่อไหนมากขึ้นถึงรู้ว่าร้านอาหารจีนที่ปีนังก็ขายเมนูนี้เหมือนกัน ชักรู้สึกไม่มั่นใจว่าเป็นอาหารจีนรึเปล่า เพราะรสชาติกระเดียดไปทางอาหารจีนอยู่บ้างเหมือนกันนะคะ แต่ที่มาไม่สำคัญค่ะ สำคัญที่รสชาติ

รสชาติของปูจ๋าไม่รู้ว่าใครจะคิดแบบต๊ะบ้างว่ามันคล้ายๆ กับหอยจ๊อนะคะ จะต่างกันก็ตรงใส่กระดองปูกับฟองเต้าหู้นี่ล่ะ แต่จะว่าไปถ้าให้เลือกแล้วต๊ะชอบรสชาติของหอยจ๊อมากกว่าเพราะว่ามีความหอม กรุบกรอบของฟองเต้าหู้ เข้ากับรสชาติเค็มหวานอ่อนๆ ของเนื้อปูที่ปรุงด้วยซีอิ๊วกับเหล้าจีน อร่อยลํ้า มีเท่าไหร่ก็กินหมดไม่เหลือ

ข่าวร้ายก็คือที่โตเกียวไม่มีฟองเต้าหู้แห้งขายค่ะ อย่างน้อยก็แถวที่ต๊ะอยู่ ถึงอยากกินหอยจ๊อยังไงก็ไม่มีหวังค่ะ แต่ก็ไม่เป็นไรค่ะทำปูจ๋าแทนก็แล้วกันนะคะ แต่จะว่าไปแล้วกระดองปูที่ต๊ะใช้ทำปูจ๋าวันนี้ ก็เป็นหนึ่งในของหายากแถวๆ นี้นะคะ โดยเฉพาะปูม้าหาซื้อได้เฉพาะหน้าร้อนอันแสนสั้นเท่านั้น พ้นจากช่วงหน้าร้อนไปปูม้าที่ขายในซุปเปอร์ส่วนมากจะเลาะเอากระดองทิ้งไป สับไว้เป็นชิ้นๆ และเป็นแบบแช่แข็ง ซึ่งไม่อร่อยเอาซะเลย  ถึงจะได้ชื่อว่าเป็นเกาะที่อาหารทะเล (ขอไม่นับปลานะคะ) ในญี่ปุ่นราคาแพงทุกอย่างค่ะ

วันนี้เจอของหายากทั้งที เอามาทำของอร่อยๆ ดีกว่านะคะ วันนี้นอกจากทำปูจ๋าแล้วต๊ะยังเก็บเนื้อปูส่วนนึงไว้ทำขนมจีนนํ้ายาปักษ์ใต้ด้วย

ตามมาดูสูตรปูจ๋าที่ต๊ะทำกินกับซาดาโอะ และโคชิดีกว่า อร่อยน้า 


ส่วนผสม
หมูสับ 200 กรัม
เนื้อปู 100 กรัม
แห้วหั่นเป็นชิิ้นเล็ก 5 หัว
กุ้งสดสับ 5 ตัว 
ไข่ไก่ 1 ฟอง
เหล้าจีน 1/2 ช้อนโต๊ะ 
ซีิ้อิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ 
พริกไทยดำบด 10 เม็ด 
ต้นหอมซอย 1 ต้น 

ไข่ไก่ 1 ฟอง และแป้งสาลีสำหรับชุบทอด
วิธีทำ
1. เอาส่วนผสมทั้งหมดผสมให้เข้ากันในอ่างผสมนะคะ  เสร็จแล้วนวดให้เข้ากันค่ะ เอาแช่ตู้เย็นประมาณ 30 นาทีนะคะ
2. จากนั้นเอาไปใส่กระดองปูให้เต็ม ดูจากดูรูปแล้วเหมือนจะเยอะแยะเลยนะเนี่ย แต่ไม่หรอกค่ะปูที่ซื้อมาวันนี้ตัวเล็กนิดเดียว เสร็จแล้วเอาไปนึ๋งให้สุกประมาณ 10 นาที
3. จากนั้นเอาปูออกจากหม้อ รอให้เย็นลงนิดหน่อยนะคะ เสร็จแล้วเอาแป้งสาลีโรยให้ทั่ว แล้วเอาไปชุบไข่


4. เสร็จแล้วเอาลงทอดจนกรอบเหลืองสวย 
ต๊ะชอบเสิร์ฟกับนํ้าจิ้มบ๊วย ถ้ายังอยู่กรุงเทพล่ะก็ต้องกินเปล่าๆ แน่ แต่ทีโตเกียวต้องกินกับข้าวเท่านั้นค่ะ ลองทำกันดูนะคะ 










No comments:

Post a Comment